เจ้าอัสสิเรียเคลื่อนคลั่งดังหมาป่า
กระบวนทองล่องมามหาศาล
ปลายหอกกลอกระยับดั่งดาวดาล
บนคลื่นผ่านกาลิลีราตรีดำ
ดุจใบไม้เขียวงามยามฝนโปรย
คือทิวธงโบกโบยเมื่อใกล้ค่ำ
ดุจใบไม้แห้งทรามยามแล้งซ้ำ
คือทัพคล่ำตายแพรกเมื่อแรกเช้า
ด้วยมรณเทวาผวาปีก
สูดปราณแล่งซีกศัตรูเจ้า
ดวงตาผู้ตายก็ไร้เงา
หัวใจเต้นเร่าก็แตกลาญ
ตรงนั้นอาชานัยไร้ชีวิต
จมูกปิดปลิดลมกำเริบหาญ
ปากร้องก้องณรงค์ก็ปลงปราณ
เหลือแต่ฟองเย็นซ่านอยู่ฟูมฟาย
ตรงโน้นอัศวินกล้านอนเกลือกร่าง
น้ำค้างค้างปลายคิ้วเกราะริ้วสลาย
ค่ายคูร้างรก ธงตกคลาย
หอกดาบปลาบหาย แตรวายปราณ
เหล่าแม่ม่ายของอะซูร์ก็กู่ไห้
พะปฏิมาก็แตกในมิจฉวิหาร
มหาทัพไร้พ่ายก็บันดาล
ละลายลาญในชั่วปรายพระเนตรปลง.