Graveyard No.2

เช่า

มีแค่กระเป๋าใบเดียวกับผ้าขะม้าจนเข้า 45 แล้ว

พ่อแม่พี่น้องน่ะมี แต่ให้กลับไปทำนาสู้มีแค่กระเป๋าใบเดียวจะดีกว่า

ไซต์งานไหนเปิดก็ไป นอนเพิงกับเขา เดี๋ยวนี้มาทำงานเป็นลูกมือช่างอู่สี ทนเมากลิ่นทำงานจนค่ำ เย็นกลับไปซุกห้องเช่าตีปิดไม้อัดราคาถูกๆ ที่ท้ายตรอก

ห้องก็ไม่แย่นักหรอก มันแย่ตรงวางมัดจำค่าเช่าห้องห่านี่ 3 เดือนแล้วถึงรู้ว่ามีผี

ทีนี้จะไปไหนได้

เขาว่ามันเป็นวัยรุ่นเล่นยาช็อกตาย เรื่องหลายปีแล้ว ใครอยู่ก็โดน มันไม่เอาใคร ไม่เอากูเหมือนกัน

คงอยากให้กูไหว้มั้ง เห็นข้าวปลาเก่าๆ กับเศษธูป ของใครไม่รู้ แต่กูไม่ทำ ไม่ใช่ผีพ่อผีแม่กูนี่ เทวดารึก็เปล่า บางทีมันก็มาเหยียบอกบ้าง มาให้เห็นในฝันบ้าง กระซิบหูขู่ว่าจะเอากูให้ตายบ้าง

กูบอกมัน ถ้าพ้นจนได้ก็เอา แต่ตายแล้วไม่มีแดกจะพากูไปตายทำไม กูตายแล้วมีแดกกันทั้งกูทั้งมึงก็พอว่า

อาทิตย์ต่อมามันให้หวย

กูก็เลยไปซื้อของมาแบ่งมันกิน ออกจากอู่นี้ก็ไปได้งานดีขึ้น สมัครงานรปภ.เขาส่งไปเฝ้าโกดังแถวนี้

ไม่รู้ว่าตอนเป็นมันเลวยังไง ตอนตายก็ไม่ได้ไว้ใจมันนักหรอก แต่ถ้าช่วยกันทำมาหากินมันก็พออยู่กันได้


กระดูก

กำไลข้อมือเธอทำจากกระดูกพี่สาวชั้นม.1

มีแต่ผมที่เป็นเพื่อนละแวกบ้านรู้ เป็นกระดูกฟันไม่ไหม้ไฟเอามาเจียทำลูกปัดเหลี่ยมๆ เจาะร้อยกันไว้ เห็นว่าปู่ทำให้ ปู่เอ็นดูพี่สาวเธอมาก เจียนตรอมใจตายพอรู้ว่าหลานรักแอบไปเล่นน้ำแล้วจมบึง

ใส่มาหลายปีแล้ว กิน นอน เล่น ก็ใส่ ผมว่ามันอุตริ เธอโกรธว่าคนอื่นยังเอากระดูกฟันพ่อแม่ใส่ตลับห้อยคอ ก็จริงของเธอ

แต่มันประหลาดตรงเธอทำเหมือนมีพี่อยู่ด้วยตลอด จะกินข้าวก็เรียก จะดูหนังก็เรียก จะไปเล่นก็เรียก ตอนนั้นยังชั้นประถมกัน ถามว่าเห็นพี่เหรอ เธอว่า ‘บางที’

เธอใส่กำไลไปโรงเรียนด้วย แล้วใครอย่ายุ่งเชียวถ้าไม่อยากมีเรื่อง ครูฝ่ายปกครองเคยชี้ตวาดให้เธอถอดกำไลทิ้งตอนเข้าแถวหน้าเสาธง มันเป็นเครื่องประดับไม่ถูกระเบียบ อยู่ๆ ฝ่ายปกครองก็ร้องหวีดแล้วล้มลงไปเลย บอกว่าเหมือนมีคนเอาไม้ฟาดท้ายทอย

เธอบอกผมว่า นั่นตบ

เพื่อนที่โรงเรียนเลยเริ่มรู้ (แต่ยังไม่รู้เรื่องกำไล) พี่เธอกลายเป็นคนดังในห้องเรียนเราเงียบๆ

บางทีเราก็เล่นผีถ้วยแก้วเชิญพี่สาวเธอ ชอบถามอะไรทะลึ่งๆ พี่ตอบถูกหมดเลย ใครใส่กางเกงในสีอะไร ใครใส่ไม่ใส่ชั้นใน ใครไม่อาบน้ำตอนเช้า

วันหนึ่งมีคนทะลึ่งถามว่า ‘พี่รู้รึเปล่า ใครจะตาย’

แก้วขยับได้คำว่า ‘น้องฉัน’

เธอก็ล้มลงไปเลย เราวิ่งฟูมฟายขวัญหนีไปหาครูมาปลุก แต่เธอตายแล้ว

ผมร้องไห้ร้องห่มกอดชายเสื้อพ่อแน่น พ่อบอกว่ามันเป็นเรื่องเธอก่อ เธอเลี้ยงพี่สาว ปล่อยให้รักให้เอ็นดูอยู่ร่วมกินร่วมนอนกัน วันนึงพี่ก็รักเธอมากเกินไปจนให้น้องตายด้วย

ตอนนั้นยังเด็ก เพิ่งจะ ป.5 ผมไม่เข้าใจหรอกว่ามันเป็นรักแบบไหน นึกไปต่างๆ นานาว่าน่าจะห้ามเธอได้ น่าจะเข้าใจเรื่องแบบนี้


ชินรัตน์ สายอุ่นใจ

ชินรัตน์ สายอุ่นใจ

Kappasaisai@gmail.com

นักเขียนผู้หลงใหลการลับมีด เจ้าของเรื่องสั้น "ชายชราเบาหวาน" ที่ได้รับรางวัลนายอินทร์อะวอร์ดประเภทเรื่องสั้น ปี 2555 ปัจจุบันใกล้จะมีนวนิยายของตัวเอง 1 เล่ม กับสำนักพิมพ์ Boligraf Book ยังคงเขียนงานอยู่อย่างต่อเนื่องที่บ้านของตน

Comments

comments

You may also like

Leave a comment

error: