Flash Fiction No. 7 – Fear

Flash Fiction

เดือนเมษายน หัวข้อ Fear
โดย ชินรัตน์ สายอุ่นใจ

 

Photo: Jordan Merrick

 

ดวงตา

 

ครอบครัวบอกให้ผมหารูปตัวเอง เป็นรูปผมในช่วงเวลาและสถานที่ต่างๆ พวกเขาอยากทำอัลบั้มออนไลน์ไว้อวดคนอื่นๆ ในวันครอบครัวที่จะมาถึงกลางฤดูร้อนนี้ ว่า ณ ปัจจุบันแต่ละคนในครอบครัวของเราทำอะไรกันอยู่ ชีวิตไปถึงไหนแล้ว มันเป็นกิจกรรมเพื่อนวัยเกษียณของพ่อและแม่

 

ผมส่งรูปให้ แต่พวกเขาอยากได้ที่ดีกว่านี้ มีสถานที่ที่น่าสนใจกว่านี้ ครอบครัวรู้จักฉากหลังของภาพเหล่านั้น ที่เดียวเดิมๆ ในวันหยุดสำหรับครอบครัว พวกเขามองแล้วแทบจะรู้ด้วยซ้ำว่าผมทำอะไร

 

“ทำไมถึงไม่ไปเที่ยวบ้างล่ะ ถ่ายรูปสวยๆ พักผ่อนบ้าง” แม่บอกผม

 

ผมไม่รู้จะไปไหน นอกจากห้องตัวเอง

 

แทบไม่มีรูปถ่ายตัวเอง และไม่ค่อยจะถ่ายสิ่งใดเก็บไว้

 

กลัวการสบตาตัวเอง

 

กลัวรูปถ่ายตัวเอง

 

บางทีก็กลัวข้อความตัวเอง แต่น้อย

 

ไม่เคยนึกกลัวคำพูดตัวเอง ผมปล่อยมันง่ายดาย จะเรื่องรักษาสัญญาหรือไม่รักษาสัญญาก็ไม่เกี่ยวกัน ผมแค่ปล่อย แม้แต่คำพูดร้ายๆ และไม่เคยจำคำพูดดีๆ ที่มอบให้ใครได้

 

หยิ่งยโสแม้เจียมตัวกับสิ่งที่เขียน ยโสว่าที่เขียนนั้นไม่บกพร่อง ดีแล้ว และเจียมตัวว่าก็ไม่มีความหมายอะไรที่ใครจะต้องมาอ่านเพื่อให้ได้บางสิ่งกลับไป

 

แต่กับรูปถ่ายและดวงตา ผมมีเพียงความขี้ขลาดและเสียใจ

 

ในนั้น ผมเห็นร่างกายครบประกอบที่เว้าแหว่ง เห็นโรคและความหมองหม่นของมัน ความผิดปรกติที่สายตาคนอื่นมองไม่เห็น แต่การรักษาบอกให้รู้

 

เมื่อเห็นร่างกายตัวเอง ผมคิดว่าไม่แปลกที่จะไม่ถูกรัก และในที่สุดผมก็ปฏิเสธที่จะรัก

 

ในนั้น ผมเห็นความทรงจำที่นับวันจะถูกย้อมเศร้าอาบไปทุกเรื่อง แม้แต่ในวัยเด็กที่เจ็บปวดไม่เป็น ร้องไห้ก็เพียงเพราะรักอย่างลูกหมา มันก็กลับถูกย้อมเศร้าเมื่อนึกถึง

 

ในนั้น ผมเห็นเวลา และยิ่งเห็นเวลาก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกลวงเปล่า

 

ในนั้น ภูตผี …ไม่เห็น ไม่เคยมีกำลังจะเป็นสิ่งใดได้ แม้ภูตผี

 


 

Photo: Sharon McCutcheon

 

จากไป

 

กลัวล้ำลึกแปลกประหลาด

 

กลัวว่าจะมีใครสักคนที่ผูกพันตายจากในเวลาอันใกล้ ในเวลาที่ผมยังโศกเศร้าอ่อนแอและช่วยเหลืออะไรเขาไม่ได้ (ช่วยเหลือตัวเองก็แทบจะไม่ได้) แม้แต่ทำให้เขามีความสุข สมหวัง (อย่างน้อยก็สมหวังในตัวผม)

 

สิ่งที่ผมกลัวเป็นจริงซ้ำแล้วซ้ำอีกในหลายปีนี้

 

ปู่จากไป อาจากไป พี่ชายต่างพ่อจากไป อยู่ๆ ก็ไป เมื่อวานก็วันธรรมดา วันนี้อยู่ๆ ก็ตาย

 

ผมไม่ได้รักพวกเขานักเมื่อมีชีวิตอยู่ เราไม่ได้คิดถึงกันเท่าไหร่ ผมว่ามันไม่ได้ผิดที่เป็นแบบนั้น แต่พวกเขาก็เป็นใครที่ผมอยากให้มีชีวิตอยู่เฝ้ารอวันที่ผมเข้มแข็งขึ้น ความตายของพวกเขามีความหมายต่อผม

 

เหมือนผมมีส่วนในความตายของพวกเขา ความสุขที่พวกเขาจะเก็บกอบไว้ดูแลตัวเองหลังความตายนั้น ไม่มีจากผม

 

ผมเชื่อว่าตัวเองจะมีชีวิตไปอีกนาน อาจ 80 อาจ 100 แต่ความตายของคนที่ผูกพันด้วย ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงวัยหนุ่มของผมทำให้ผมไร้ค่าลงไปเรื่อยๆ

 

รู้สึกขึ้นมาว่าอีกสิบปี พอเยือนเลข 40 ผมเองก็คงเป็นซากเปล่า

 

ชีวิตที่เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นานกลับผูกพันความตายยิ่งกว่าเช้าวันใหม่ ผมหลับลงโดยที่นึกถึงความตาย คิดถึงพรุ่งนี้ว่าพวกเขาจะยังมีชีวิตอยู่เฝ้ารอผมหรือเปล่า

 


 

 

Photo: Dyaa Eldin

 

 

ฝัน

ฝันดีจนเศร้า

 

ที่จริงก็ดีที่ได้ฝันแบบนี้ สมัยเด็กๆ ผมรักฝันดี ยิ่งถ้าได้ฝันถึงเด็กสาวที่หลงใหลหรือที่ผูกพันอยู่ด้วย มันเหมือนเป็นคำทำนายว่าวันพรุ่งนี้จะได้พบสิ่งดีๆ กับเธอ

 

ฝันดีทำให้วันเรียนเป็นวันที่ดีได้ เป็นของสำคัญเล็กๆ ชิ้นหนึ่งในวัยนั้น ไม่ต่างจากหนังสือการ์ตูน เกม หรือเครื่องเล่นเพลงพกพา

 

ในตอนนี้ มันไม่เป็นอะไรมากกว่าฝัน

 

ฝันดีมอบความรู้สึกดีๆ เมื่อตื่น แต่เพราะอะไรต่างๆ ในตอนนี้มันยากเหลือเกิน ความรู้สึกดีๆ ที่จะจำไม่ได้อีกจึงไม่เพียงพอ

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง อาจแค่ชั่วโมง หรือวัน ผมก็เริ่มรู้สึกว่ากำลังถูกหลอก วนเวียนคิดว่าหายไปไหนนะความรู้สึกจากฝันนั้น ติดอยู่ในความหวัง

 

แต่จะโทษอะไรได้ ผมบังคับฝันไม่ได้

 

อยากไม่ฝันอะไรเลย

 


 

ชินรัตน์ สายอุ่นใจ

ชินรัตน์ สายอุ่นใจ

Kappasaisai@gmail.com

นักเขียนผู้หลงใหลการลับมีด เจ้าของเรื่องสั้น "ชายชราเบาหวาน" ที่ได้รับรางวัลนายอินทร์อะวอร์ดประเภทเรื่องสั้น ปี 2555 ปัจจุบันใกล้จะมีนวนิยายของตัวเอง 1 เล่ม กับสำนักพิมพ์ Boligraf Book ยังคงเขียนงานอยู่อย่างต่อเนื่องที่บ้านของตน

 

 

Comments

comments

You may also like

Leave a comment

error: