Graveyard No.3

ฝัน

ฝันว่าแจวเรือล่องแม่น้ำท้ายบ้านไปกัน 3 คน

 

ผมคัดท้าย รุ่นน้องชายปวช.ที่สนิทกันนั่งกลาง เพื่อนสนิทผมนั่งหน้า มันเป็นคนห้าวๆ ชอบทำอะไรที่คนเขาไม่ทำกัน ทะลึ่งทะเล้นไปเรื่อย แต่ผมก็เฮฮาไป

 

อยู่ๆ เพื่อนมันก็บิดหักคอหมุนกลับหลังมาบอกว่า ‘ตรงนี้’

 

หน้าตามันเริงรื่น

 

เรือชนตอท้องแตกจมลง

 

ผมกับรุ่นน้องว่ายน้ำเป็น แต่เพื่อนไม่ มันจมหาย รุ่นน้องพุ่งมุดงม อึดใจหนึ่งก็ผวาขึ้นเหนือน้ำโวยวาย ยังไม่ทันตั้งสติเข้าใจว่าเกิดอะไร เพื่อนมันก็โผล่ขึ้นโอบคอรุ่นน้องแล้วจมหายลงไปด้วยกัน

 

ผมเป็นบ้าในนาทีนั้น

 

เท้าถูกกระชากจากใต้น้ำ ตื่นฝันเพราะแรงดึง

 

ยังจำหน้ามันในฝันได้ มันจ้องผมอย่างสาใจ

 

ตื่นมาก็ได้รู้ข่าวเพื่อนถูกอริยิงตายที่ตลาด

 

ผมไม่ไปงานศพ

 

รุ่นน้องโทรมาถามว่าทำไมไม่ไป ผมบอกยังไงก็ไม่ไป ไม่ต้องถาม แล้วมึงก็ระวังด้วย แต่ไม่ได้บอกฝันให้ฟัง ผมกลัวมันหาว่าบ้า

 

รุ่นน้องไปฟังสวดคืนแรกขี่มอร์’ไซค์ชนเสาไฟฟ้า ได้ตั้งศพอีกศาลาติดกัน

 

ตายโหง เขาว่าจิตสุดท้ายมันร้าย ตอนเป็นคนก็เพื่อนดีๆ แต่ตอนนี้ใจมันคงเป็นโหงเป็นพราย

 

ความตายมีค่ามีอำนาจ ไม่ใช่ของที่คนหนุ่มคะนองจะทนง่าย มันว้าเหว่ มันโกรธ มันเหงา มันหิว มันอยากฆ่า มันวิปริตไปหมดเพราะตาย แต่ตายโหงแล้วก็ใช่เป็นอย่างนั้นหมด ก็แล้วแต่ดวงใจภูตผีว่าตอนเป็นคนเคยดีเคยงามยังไง แต่ใครจะรู้ใจใคร นี่เพื่อนสนิทกันแท้ๆ

 

ผมไม่ไปสักงาน นอนห้อยพระคลุมโปงทั้งวันคืน ลงกลอนหน้าต่างปิดทึบนอนอ้าว ใจเชื่อว่ามันต้องมา ลองฝันขนาดนี้

 

คืนนั้นสวดสุดท้าย มันเคาะหน้าต่างตั้งแต่สวดจบ เรียกผมเหมือนเรียกเพื่อน ซักพักก็ไม่ใช่เพื่อนแล้ว กระชากเสียงเรียกเอาเหมือนผมเป็นขี้ข้าต้องชดใช้ให้ กลัวมากเข้าก็โกรธตะโกนด่ามันไปบ้างว่า ‘มึงเก่งได้แค่นี้เหรอ’

 

มันกระชากบานหน้าต่างกลอนขาดเปิดให้เห็นเลย กบาลซ้ายแหวะ เลือดเปรอะหน้าไปซีกหนึ่ง

 

เห็นแค่นั้นก็สลบไป ฟื้นอีกทีก็เช้า แค้นใจไม่มีใครเชื่อ ทั้งพ่อทั้งแม่ แม้แต่พระเจ้าวัดตั้งศพแท้ๆ ก็ยังไม่เชื่อ สุดท้ายนึกได้ว่ามันมีของแบบนี้อยู่ก็จุดธูปบอกเสื้อวัดทรงวัดที่เผามันว่าขออย่าให้มันได้ไปไหนทำใคร เรียนจบแล้วจะบวชเอาบุญให้เสื้อวัดทรงวัด

 

หลังจากนั้นผมก็ไม่เจอเรื่องอะไรอีก แต่นานๆ ทีก็ฝันบ้างว่ามันแค้นที่ยังเอาผมไปไม่ได้

 


 

ตาม

ผมขับเลยบ้านตัวเองมาได้เกือบ 100 กิโลเมตรแล้ว

 

ทำยังไงให้รถกระบะข้างหน้ารู้ว่ามีไอ้ครึ่งตัวบนไส้ห้อยเกาะข้างประตูฝั่งคนขับนี่ยังคิดไม่ออก

 

กลับบ้านพ่อแม่วันหยุดยาว เจอคันนี้ช่วงเที่ยงคืนทางหลวงเข้าภาคเหนือ ถนนตรงเปลี่ยวไม่ติดด่านไม่ติดไฟแดง เห็นไกลๆ ทีแรกยังงงว่าอะไรงอกจากประตูรถ พอขับจี้เข้าใกล้ไฟหน้าก็ส่องเห็นผู้ชายมีแค่ครึ่งตัวบน

 

คงเพราะเห็นเด็กอยู่ในรถ จะผ่านไปเหมือนไม่ใช่เรื่องตัวเองก็ทำใจไม่ได้

 

แต่ไม่รู้จะทำยังไง บางทีผู้ชายคนขับก็เปิดกระจกข้างพักแขนดูดบุหรี่สบายใจ กะพริบไฟบอกเท่าไหร่เขาก็ไม่เห็น จะทำแบบหนังแซงปาดหน้าก็กลัวได้ตายกันหมดสมใจผี

 

พยายามส่งสัญญาณอยู่เรื่อยๆ จนไอ้ตัวนี้มันหันมาชี้หน้าผม วาบแรกกลัวจนมือเท้าอ่อน แต่วาบต่อมานั้นโกรธจนนึกถึงปืนพก

 

ก็เพราะโกรธ หุนหันคิด เอาไงเอากัน ผมเปิดเก๊ะดึงปืนเหน็บหลัง ขับแซงขึ้นไปได้จังหวะคันหน้าดูดบุหรี่ก็เปิดกระจกตะคอกควยใส่

 

ขึ้นชื่อว่าควยนี่ให้ผีบังยังไงก็แรงพอจะได้ยิน ผมเร่งหนีขึ้นไปได้ซัก 400 เมตรก็จอดรออยู่ ฝ่ายนั้นเห็นผมจอดก็จอดตาม เดินถมึงถือมีดเล่มเท่าแขนมา เป็นคนหาเช้ากินค่ำเห็นได้ทั่วๆ ไป จังหวะนั้นผมไหว้ทั้งเหน็บปืนอยู่ว่าพี่ฟังก่อน เขาถามว่ามึงเป็นควยอะไร

 

ผมบอกเขาว่า “พี่ลองนึกดูนะ ถ้าผมจะหาเรื่องผมก็ขับแซงไปแล้ว ไม่จอดรอหรอก แต่เรื่องที่จะบอกนี่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้เชื่อ เอาเป็นว่าพี่อยู่กับผมจนเช้าแล้วค่อยเดินทางเถอะ เห็นแก่เด็กในรถพี่ก็ได้”

 

เขางง บอกว่าเด็กไหนกูมาคนเดียว

 

ผมเลยเล่าให้ฟังหมด เขาหงุดหงิดว่าผมบ้า (แต่อาการจะเอาเรื่องน่ะไม่มีแล้ว) ทำท่าจะขึ้นรถไปต่อ ทั้งเด็กทั้งไอ้ตัวนั้นก็ยังอยู่บนรถ ผมก็ชักปืนจ่อเขาเลย

 

ไม่ใช่ว่าใจดี แต่ถึงขนาดนี้แล้วกูจะไม่แพ้ เห็นปืนก็อ่อนนั่งคุยกันเสียงหวานจนเช้า ก่อนไปยังไหว้ลาผมว่าเดี๋ยวจะแวะวัด

 

เขาจะต้องแวะหรือเปล่าผมไม่รู้ เพราะไอ้สองตัวนั่นมันมาตามผมแล้ว

 


 

เต็ม

เคยดูหนังเรื่อง ‘ผีเต็มตึก’ ไหม?

 

ถามไปงั้นแหละ หนังดี แต่ผีมันไม่ได้เต็มตึกขนาดนั้น

 

ไอ้ที่จะเล่านี่ ‘ผีเต็มตึก’ จริงๆ

 

จะไปค้นไปหารู้ว่าเป็นโรงพยาบาลที่ไหนก็แล้วแต่ท่าน จะรบกวนเขาแล้วเขาจะเล่าให้ฟังว่าจริงไหมก็เรื่องของเขา

 

โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งทางภาคเหนือได้ทุนสร้างตึกใหม่ เริ่มโครงการไปได้พักใหญ่อยู่ๆ มีตัวมาเข้าฝันคนงานว่ามึงจะสร้างตึกมึงไม่บอกกู กูไม่ชอบ กูจะเอาคนเซ่น

 

มีคนงานตายเซ่น 3 ศพ

 

สร้างเสร็จแล้ว ตายเซ่นแล้ว เรื่องก็ไม่จบ คนงานคนเดิมนี่แหละฝันว่าเห็นผีเต็มตึก ทั้งคนป่วย คนดีๆ คนขาดครึ่ง คนแขนขาแหว่ง เขาถามว่า มากันทำไม ไม่ไปบ้านช่อง ไอ้ตัวหนึ่งก็ตอบกลับมาว่า ‘ก็เขาสร้างที่นี่ให้พวกกูอยู่แล้วไง’

 

ก็เป็นเรื่องประหลาดอย่างนั้นแหละ ใครจิตเปิดเห็นผีไปตึกนั้นก็เห็นเต็มตึกจริง เดินสวนคนไปมาขวักไขว่ อยู่ทุกชั้นทุกห้อง ห้องตรวจ ห้องน้ำ ห้องคนป่วย ห้องเจ้าหน้าที่ นั่งสุมกันปานมีงานบุญ ใครในตึกก็มักจะเจอเรื่องแปลกๆ หนาวยะเยือกบ้าง อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคนพูดคนทำโน่นนี่บ้าง นึกจะเหิมก็หลอกหลอนให้เขาเซ่นเขาไหว้บ้าง

 

ล้วนแต่เลวระยำทั้งนั้น ก็โรงพยาบาลเขาสร้างไว้รักษาคน ไม่ได้ให้เป็นศาลผีห่าที่ไหน นี่มาโมเมเอาเหมือนอย่างคนเห็นเป็นๆ เห็นแก่ตัว

 

ว่าแล้วก็นึกถึงเรื่องอย่างรถขนส้มขนปลาคว่ำเทกระจาดนั่นก็ผีห่ารุมเก็บเอาไปเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของ มันก็จัญไรอย่างเดียวกันนี้

 


 

ชินรัตน์ สายอุ่นใจ

ชินรัตน์ สายอุ่นใจ

Kappasaisai@gmail.com

นักเขียนผู้หลงใหลการลับมีด เจ้าของเรื่องสั้น "ชายชราเบาหวาน" ที่ได้รับรางวัลนายอินทร์อะวอร์ดประเภทเรื่องสั้น ปี 2555 ปัจจุบันใกล้จะมีนวนิยายของตัวเอง 1 เล่ม กับสำนักพิมพ์ Boligraf Book ยังคงเขียนงานอยู่อย่างต่อเนื่องที่บ้านของตน

Comments

comments

You may also like

Leave a comment

error: