SCHOOL LIFE No.5
ร้านนม
ราวๆ 15 ปีก่อนมีร้านนมอยู่ทั่วทั้งเมือง ลูกค้าก็เด็กนักเรียนของเมือง เป็นที่สิงสถิตผมเหมือนร้านการ์ตูนหรือสนามบาสเกตบอล (ที่เล่นฟุตบอลมากกว่า)
เราไปคูลดาวน์หลังเล่นบอลกันที่นั่น นมปั่นเกล็ดน้ำแข็งแก้วละ 10 บาท นมจืด นมหวาน ช็อคโกแล็ต สตรอเบอรี่ กาแฟ โอเลี้ยง ชาเย็น ปั่นใส่คุกกี้ โรยขนมปังหั่น มีทุกอย่างเท่าที่จะนึกผสมออก ผมมีร้านประจำอยู่ 2-3 ร้าน (อย่างกับร้านเหล้าโปรดในตอนนี้เลย)
บางร้านผมชอบราคา บางร้านผมชอบรสชาติ บางร้านผมชอบสถานที่ อย่างร้านหนึ่งอยู่ในย่านเงียบสงบ หันหน้าร้านเข้าหาบ้านเด็กสาวที่ผมเคยชอบ พอไม่รักแล้วผมก็ไม่ไปนั่งร้านนั้นอีก มันเสียใจมากไป
แต่ร้านที่ผมกับเพื่อนไปกันบ่อยๆ เป็นย่านตลาดโต้รุ่ง เราสนิทกับเจ้าของถึงขนาดว่าผมเดินไปหลังเคาน์เตอร์ วางเหรียญแล้วหยิบนมมาปั่นผสมตามใจอยากกินได้เลย
ที่ร้านนั้น เรานั่งลอกการบ้าน นั่งร้องไห้กันก็เคย บางทีผัว ม.ปลายก็มาตามเจอชู้ ม.ต้น เจ้าของร้านเป็นรุ่นพี่เรา เด็กหนุ่มเหลือขอในตำนาน คนบ้าที่กล้าไปตั้งโต๊ะหน้าห้องน้ำหญิงเก็บค่าบริการคนละบาททั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วคนอื่นก็ให้เพราะนึกสนุก
จบมัธยมแล้วก็ไม่ได้ไปต่อที่ไหน เขามาโรงเรียนบ่อยๆ มีรุ่นน้องอายุไม่ทันกันรู้จักมักคุ้นไม่น้อย บางทีมีกิจกรรมออกค่ายของชมรมนักเรียนเขาก็เป็นคนนอกที่ปะปนไปด้วย เป็นนักดนตรีรับเชิญ เป็นพ่อครัว แล้วแต่นึกสนุก
เปลี่ยนอาชีพบ่อย เปิดร้านการ์ตูน-ขายทิ้ง เอาทุนไปเปิดร้านขายรองเท้าวัยรุ่น-ขายทิ้ง เอาทุนไปเปิดอินเทอร์เน็ตคาเฟ่-ร้านนี้ยังอยู่ แต่เขาแค่เบื่อ เลยขายต่อ
ตอนผมปั่นนมกินวันหนึ่ง เขาบอกว่าอยากลองเปิดห้องซ้อมดนตรี
“มันไม่กำไรหรอก” ผมบอก
“มึงคิดว่าร้านนมมันกำไรรึไง” เขาสวนกลับ
“ไม่อยากรวยเหรอ” ผมสงสัย
เขานั่งนึกสักพัก
“ไม่รู้ว่ะ” เขาตอบ
เมื่อก่อนเขาไม่ได้ตั้งใจเรียน ขั้นโง่บัดซบ แต่ใครเอาการบ้านไปนั่งทำที่ร้านนมเขาชี้แนะคำนวณได้เหมือนอัจฉริยะ (เขาบอกว่าพอไม่บังคับเรียนแล้วมันก็ง่ายซะอย่างงั้น เลิกเกลียดไปแล้ว) รู้แม้กระทั่งว่าหนังสือเตรียมสอบเล่มไหนดี-ห่วย
เขารู้หมดว่าโรงเรียนไหนกำลังมีกิจกรรมอะไร ใครรักใคร ใครกำลังเป็นดาวเด่นของโรงเรียนไหน รู้แม้กระทั่งใครง่าย ใครขาย (ถ้าสนใจ) หลายๆ คนก็ได้เขาช่วย งานกีฬาสีเขาก็ช่วยเราวาดรูปทำชุดขบวนพาเหรด หรือถ้าเรามีไปเล่นดนตรีที่ไหน เขาก็อาสาไปถ่ายวิดีโอให้
เขาชอบอ่านการ์ตูนมาก ร้านนมยังมีการ์ตูนคัดสรรจากร้านที่เขาปิดไปเรียงอัดเต็มผนัง มีการ์ตูนเล่มหนึ่งเขารักมาก ที่รักเพราะเขาอกหักที่ตัวเอกไม่เลือกเด็กสาวที่เขาชอบ เขาชอบเธอที่หลงรักผู้ชายมีความฝัน
ฝันแบบที่ได้นอนมองท้องฟ้าแล้วรู้สึกสวยงาม เดี๋ยวกลับไปกินข้าวอาบน้ำแล้วก็ลงมือทำความฝันเล็กๆ ของตัวเองต่อ
เขาเหมือนเป็นตัวละครลับของชีวิตวัยมัธยมเมืองนี้
แล้วเขาก็เปิดห้องซ้อมดนตรีในปีต่อมา ส่วนร้านนมก็ตายไป พอผมจบ ม.หกก็ไม่มีร้านนมเหลืออีกเลย เหมือนที่อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ทั่วทั้งเมืองก็ปิดลงตามๆ กัน
ผมอายุ 25 แล้วในวันที่นึกถึงเรื่องนี้ เป็นพนักงานธนาคารสาขาฝั่งถนนหน้าโรงเรียนเก่า แต่ไม่เคยเดินข้ามฟากกลับไปที่โรงเรียนเลย มันห่างไกล กลายเป็นโลกที่ผมแปลกหน้า ในขณะที่เขาก็ยังกลับไปที่นั่น ถ้าผมพูดชื่อเขา ต้องมีเด็กรู้จัก
แต่เราห่างหายกันไป ผมไม่ได้ไปพบเขานานแล้ว ไม่ไปจะดีกว่า ผมกลัวจะทำให้เขาเศร้า ไม่รู้สิ เขาอาจเศร้าก็ได้ถ้าเจอผม
เขายังคงวนเวียนอยู่กับชีวิตวัยนั้น ตอนนี้เปิดร้านขายเครื่องเขียนตรงห้องเช่าเดิมที่เคยเปิดร้านนม
วันหนึ่งอีกไม่นานเขาจะเป็นคุณน้า ผมนึกถึงเด็กสาวในการ์ตูนเล่มนั้น เธอที่รักคนมีความฝัน