SCHOOL LIFE No.6
ทำอาหาร
วันนั้นเราเล่นฟุตบอลที่สนามคอนกรีตหน้าโรงเรียนกันย่ำค่ำ หิวจนคิดว่าลากตัวเองไปร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำที่ตลาดโต้รุ่งไม่ไหวแน่ๆ และคงตายก่อน
เพื่อนสนิทผมมันพูดขึ้นว่า ‘ตั้งชมรมทำกับข้าวกันเอาไหม’
ทั้งๆ ที่ไม่มีใครทำอาหารเป็นเลย
เราเคยเข้าชมรมฟุตบอล แต่ก็ลาออก เราแค่อยากเล่นไปวันๆ ไม่ได้อยากรู้สึกว่าต้องแข่งขันหรือฝึกระเบียบวินัยอะไรทั้งนั้น รู้ว่าเล่นกันไม่ได้ความแต่ก็ไม่อยากเปลี่ยน
เขาบอกว่าไม่ได้ต้องการอะไรทั้งนั้น แค่อยากกินข้าวก่อนกลับบ้าน
เราใช้ห้องคหกรรมที่เรียนเฉพาะงานประดิษฐ์เพราะไม่มีการสอนทำอาหารมาหลายปีแล้วเป็นห้องชมรม ซีอิ๊วขึ้นรา ช้อนชามจับคราบถึงขนาดต้องใช้กระดาษทรายขัดออก ของเน่าเต็มตู้เย็นและตู้นั้นก็ต้องยกไปขอครูช่างซ่อมให้ สมาชิกเริ่มต้นมี 10 คน เป็นเพื่อนจาก 3 ห้องหัวแถว ม.3 ที่สนิทกันในเกมออนไลน์
ทุกคนทำกับข้าวห่วยแตก หุงข้าวหมอไฟฟ้ายังแฉะเละ ทอดไก่ข้างนอกไหม้ข้างในดิบ สารพัดสารเพปัญหา วัตถุดิบทั้งหมดเราซื้อต่อจากแม่ครัวร้านข้าวโรงเรียน
จาก 10 เหลือ 5 ยังอยู่กันเพราะสนุกที่ได้กินกับข้าวฝีมือไม่เอาไหนของแต่ละคน อิ่มแล้วก็ปิดครัวไปเล่นบอลหรือทำอะไรอื่น เย็นมาก็ไปหาข้าวกินกันอีกมื้อ จริงๆ เราก็ยังไปๆ มาๆ หากันทั้ง 10 คน เพียงแต่มีแค่ 5 คนเท่านั้นที่ทุกเลิกเรียนจะมาที่นี่ คุยกันว่าทำอะไรกินดี และรู้สึกว่าจะต้องปรับปรุงฝีมือตัวเอง
อยู่ๆ บ่ายวันหนึ่งนักเรียนหญิง ม.4 หัวหน้าบรรณารักษ์ห้องสมุดก็ขอสมัครเป็นสมาชิก
เธอเดินกอดนิยายตามกลิ่นไข่เจียวทอดใบตองมา ถามว่าขอกินด้วยได้ไหม ผมคดข้าวสวยให้จานหนึ่ง
เธอได้กลิ่นกับข้าวทุกบ่าย แต่เธอแพ้ไข่เจียวหอมๆ ไม่ค่อยได้กินไข่เจียวทอดใบตอง อิ่มแล้วก็พูดยิ้มๆ อย่างขวานผ่าซากว่าไข่เจียวไหม้ไปหน่อยนะ (ครั้งแรกก็แบบนี้ เพื่อนบอกว่ายายทำให้กินสมัยเด็กๆ เลยอยากลอง) รับพี่เป็นสมาชิกชมรมสิ แล้วจะสอนทอดไข่เจียวให้
สอนทอดไข่เจียว? ผมสงสัย
เธอจ้องผ่านแว่นดุผมว่าช่างไม่เข้าใจอะไรเลย
ผมถามเธอว่า เป็นสมาชิก 2 ชมรมได้หรือไง
เธอตอบว่าโรงเรียนนี้ไม่มีชมรมห้องสมุด ทำเพราะอยากทำ ใครๆ ก็เล่นฟุตบอล แต่ชมรมฟุตบอลมีสิทธิ์จะกันสนามไว้ให้เฉพาะชมรมซ้อมได้
ผมบอกถ้างั้นไม่เห็นต้องสมัครสมาชิกชมรม อยากมาก็มา แต่เธอว่าเป็นคนนอกมาเที่ยวสอนสมาชิกมันถือดีไปหน่อย
“ตั้งใจจะสอนทอดไข่เจียวจริงๆ งั้นเหรอ” ผมถามซ้ำ
เธอจ้องผมผ่านแว่นดุๆ อีก
ตั้งแต่นั้นชมรมทำมื้อบ่ายของเราก็ดูจริงจังขึ้นผิดหูผิดตา ได้กินอะไรอร่อยๆ ตอนท้องว่างๆ สนุกกว่ากินอะไรไม่เป็นรส
มันยังเป็นฟุตบอลในตอนบ่ายของเรา เราไม่เคยชอบรายการแข่งขันทำอาหารที่เธอให้ดู แต่สนุกกับการ์ตูนทำอาหารที่เธอขนมาให้อ่าน ถึงพิสดารพันลึก แต่บางทีเราก็ฝันว่าอยากเป็นแบบนั้นบ้าง ถึงกับมีคนเก็บเงินซื้อมีดทำครัวมือสองจากญี่ปุ่น พักหนึ่งเราแย่งมีดเล่มนั้นใช้กัน แต่ใช้ไปนานๆ เข้ามันก็ทื่อ
และเพราะมีดทื่อนี่แหละถึงมีเพื่อนคนหนึ่งพบว่าเขาชอบลับมีดมากกว่าทำกับข้าว แล้วก็แยกตัวไปตั้งชมรมเถื่อนอยู่คนเดียว
ทั้งๆ ที่เขาก็ยังมากินข้าวกับเราทุกบ่ายและลับมีดให้ทุกวัน แต่รุ่นพี่บรรณารักษ์ก็เสียใจที่เขาลาออก ผมเข้าใจ อะไรก็ตามที่เหมือนว่าจะแยกจากกัน แม้เพียงเศษเวลาก็เจ็บปวด
ผมก็รู้สึก ที่รุ่นพี่เสียใจที่เขาไป
เหมือนมีแค่ผมที่รุ่นพี่จะไม่สอนทอดไข่เจียวให้